วันเสาร์, สิงหาคม 22, 2552

บรรยากาศ กลางนา

ที่ร้าน.."กรุงเทพกลางนา" หรือจะเรียก "สวนอาหาร กลางนา".







บรรยากาศภายในร้าน ก็แต่งตกแบบง่ายๆ นั่งได้สบาย ลมพัดเย็น






เมนูแรก...ไก่บ้านต้มมะดัน

เมนูต่อไป... กุ้งคั่วเกลือ
ต่อไป ยำปลาข้าวสาร

เมนูสุดท้าย..(แต่ไม่ท้ายสุด)...มะละกอผัดไข่

วันจันทร์, สิงหาคม 17, 2552

ปลานิลยำตะไคร้

เป็นปลานิลทั้งตัวที่นำมาแล่แบะออก แล้วทอดจนเหลืองกรอบ และก็มีน้ำยำที่มีตะไคร้ซอย หอมแดงซอย กระเทียมซอย มะม่วงเปรี้ยวสับ ที่คลุกเคล้าปรุงรสชาติเหมือนน้ำจิ้มซีฟู้ดราดมาบนตัวปลา โรยหน้าด้วยถั่วลิสงทอด พริกทอด และใบสะระแหน่ ลิ้มรสชาติเนื้อปลากรุบกรอบชุ่มน้ำยำออกเปรี้ยว เผ็ด อมหวานนิดหน่อยถูกปากดี

คอหมูข้าวคั่ว


คอหมูที่ผ่านการปรุงรสหมักด้วยซอส และเพิ่มความพิเศษด้วยการนำมาคลุกกับข้าวคั่วที่ทางร้านทำเอง แล้วจึงค่อยนำมาทอดจนหมูสุก ลิ้มรสคอหมูที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของข้าวคั่ว เนื้อหมูเคี้ยวนุ่ม กรุบกรอบปาก และมีน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดให้จิ้มกินคู่กัน แถมมีผักสดมาให้กินแนมด้วย

ส้มตำปลาข้าวสาร

ดูแปลกตาแต่ว่ารสชาติไม่แปลกลิ้น เพราะเป็นส้มตำไทยแบบครบสูตร แต่ว่าที่ใส่ปลาข้าวสารลงไปคลุกเคล้าเพิ่มรสชาติด้วย ส่งให้ส้มตำไทยรสเด็ดเปรี้ยว เผ็ด หวานถูกปาก และยังออกรสชาติปลาข้าวสารตัวเล็กๆ เคี้ยวมันเพลินปาก

สวนอาหาร กลางนา


ท่ามกลางท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่...ต้นข้าวเขียวขจีขึ้นอยู่เต็มท้องนา สายลมเย็นๆ พัดเอื่อยๆ มากระทบผิวกาย สร้างความเย็นกายและเย็นใจเสียเหลือเกิน บรรยากาศเช่นนี้ต้องบอกว่าหาสัมผัสได้ยากยิ่งในเมืองกรุงอันแสนจะวุ่นวายในทุกวันนี้

แต่ว่ามาในมื้อนี้ถือได้ว่า มีโอกาสอันดีที่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศชนบทกลางเมืองเช่นนี้ เมื่อเราได้พาตัวเองมาที่ “สวนอาหารกลางนา” ที่ตั้งอยู่ในโฮมสเตย์กรุงเทพกลางนา เขตสะพานสูง

ที่ สวนอาหารกลางนา
แห่งนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องตั้งอยู่กลางนา ฉะนั้นบรรยากาศจึงแวดล้อมไปด้วยทุ่งนาเขียวๆ ดูแล้วรื่นรมย์ผ่อนคลาย ช่วยสร้างอารมณ์ให้กับการกินข้าวเสียเหลือเกินและสำหรับเมนูอาหารของร้านนี้ก็เป็นอาหารไทยแบบพื้นบ้านที่มีหลากหลายเมนูเด็ดชวนลิ้มรสไม่น้อยเลย
อย่างเมนูแรกที่เราสั่งมากินเป็น
ส้มตำปลาข้าวสาร (50 บาท) ดูแปลกตาแต่ว่ารสชาติไม่แปลกลิ้น เพราะเป็นส้มตำไทยแบบครบสูตร แต่ว่าที่ใส่ปลาข้าวสารลงไปคลุกเคล้าเพิ่มรสชาติด้วย ส่งให้ส้มตำไทยรสเด็ดเปรี้ยว เผ็ด หวานถูกปาก และยังออกรสชาติปลาข้าวสารตัวเล็กๆ เคี้ยวมันเพลินปาก


เมนูต่อมาเป็น คอหมูข้าวคั่ว (70 บาท) คอหมูที่ผ่านการปรุงรสหมักด้วยซอส และเพิ่มความพิเศษด้วยการนำมาคลุกกับข้าวคั่วที่ทางร้านทำเอง แล้วจึงค่อยนำมาทอดจนหมูสุก ลิ้มรสคอหมูที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของข้าวคั่ว เนื้อหมูเคี้ยวนุ่ม กรุบกรอบปาก และมีน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดให้จิ้มกินคู่กัน แถมมีผักสดมาให้กินแนมด้วย

ส่งท้ายด้วยเมนูปลา ที่กินแล้วไม่อ้วน แต่ได้สารอาหารมากมาย อย่างปลานิลยำตะไคร้ (120 บาท) เป็นปลานิลทั้งตัวที่นำมาแล่แบะออก แล้วทอดจนเหลืองกรอบ และก็มีน้ำยำที่มีตะไคร้ซอย หอมแดงซอย กระเทียมซอย มะม่วงเปรี้ยวสับ ที่คลุกเคล้าปรุงรสชาติเหมือนน้ำจิ้มซีฟู้ดราดมาบนตัวปลา โรยหน้าด้วยถั่วลิสงทอด พริกทอด และใบสะระแหน่ ลิ้มรสชาติเนื้อปลากรุบกรอบชุ่มน้ำยำออกเปรี้ยว เผ็ด อมหวานนิดหน่อยถูกปากดี

นี่คือ 3 เมนูเด็ดที่เราได้เลือกสั่งมาลิ้มรส แต่ถ้าหากพากันมาหลายคน จะสั่งเมนูเพิ่มเติมก็ยังมีอีกหลายเมนูเด็ดที่ชวนชิม อาทิ ไก่บ้านต้มใบมะดัน (ถ้วยละ 80 บาท หม้อไฟ 120 บาท) ปลาช่อนลุยสวน (ราคาตามน้ำหนักปลา 150 บาทขึ้นไป) ปลากะพงน้ำปลา (ราคาตามน้ำหนักปลา 120 บาทขึ้นไป) แกงส้มชะอมกุ้งสด (ถ้วยละ 80 หม้อไฟ 120 บาท) ยำกบ (80 บาท) และอีกสารพันอาหารไทยๆ ที่ชวนลิ้มรสมากมาย เคล้าไปกับบรรยากาศสบายๆ ชมวิวทุ่งนาที่ร้าน “สวนอาหารกลางนา”


“สวนอาหารกลางนา” ตั้งอยู่ที่เขตสะพานสูง
การเดินทางให้ขับเลียบมาตาม ถ.พระราม 9 ตัดใหม่ แล้วตรงเข้าคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 6 กม.จะเห็นสะพานข้ามคลอง และให้กลับรถใต้สะพาน จากนั้นขับตรงมาตามทางประมาณ 20 ม.จะเห็นซอยแรกทางซ้ายมือมีป้ายใหญ่ๆ ติดไว้ว่าโฮมสเตย์กรุงเทพกลางนา ให้เลี้ยวเข้าในในซอยนั้น และขับตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ จะเจอร้านสวนอาหารกลางนา เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
ถ้าไปไม่ถูกโทรสอบถามเส้นทางได้ที่เบอร์
คุณวินัย 08-9535-5836, 08-7066-0873


เกี่ยวกับ สวนอาหาร

ท่ามกลางท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่...ต้นข้าวเขียวขจีขึ้นอยู่เต็มท้องนา สายลมเย็นๆ พัดเอื่อยๆ มากระทบผิวกาย สร้างความเย็นกายและเย็นใจเสียเหลือเกิน บรรยากาศเช่นนี้ต้องบอกว่าหาสัมผัสได้ยากยิ่งในเมืองกรุงอันแสนจะวุ่นวายในทุกวันนี้

แต่ว่ามาในมื้อนี้ถือได้ว่า มีโอกาสอันดีที่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศชนบทกลางเมืองเช่นนี้ เมื่อเราได้พาตัวเองมาที่ “สวนอาหารกลางนา” ที่ตั้งอยู่ในโฮมสเตย์กรุงเทพกลางนา เขตสะพานสูง